Tokyo

Tokyo

Friday, June 27, 2014

สงกรานต์นี้เจ้านายวางแผนพาคุณแม่ไปเที่ยว  แต่คุณแม่ไม่ไป  ถ้างั้นไปดูซากุระกันมั้ย เจ้านายโอเคงั้นรีบจัดไปฉลองเข้าญี่ปุ่นแบบไม่ต้องขอวีซ่า ไปญี่ปุ่นครั้งสุดท้ายนี้มัน 22 ปีมาแล้วอะไรมันจะนานขนาด  จริงๆ แล้ว Transit ผ่านญี่ปุ่นหลายครั้งมากแต่ไม่ได้แวะลงเลย  ไประลึกวันวานกันหน่อย  .... เป็นประจำตัดสินใจแบบปุ๊บปั๊บเลยไม่เคยได้ตั๋วราคาดีหรือวันที่เหมาะ  ... ตั๋วเต็มตลอดก็เลยออกจาก กทม. เช้าวันอาทิตย์ที่ 13 สงกรานต์พอดี ... เลยต้องลางานเพิ่มอีกวัน

เที่ยวบิน ANA NH848 พาเราไปลง Haneda  .... นั่งแช่ใน  TG Louge จนถึง Final Call

ไปญี่ปุ่นลง Haneda สะดวกกว่า Narita  นั่งรถไฟเข้าเมืองแค่ 20 นาทีก็ถึง  ลง Narita ขนาดนั่ง Shinkansen ยังตั้งชั่วโมงนึง



ลากกระเป๋าออกมา  ด้านขวาจะเป็น Tourist Information Center 

 ซื้อตั๋ว Tokyo One-day หรือ Two-day Pass ที่ Airport จะถูกกว่าไปซื้อในเมือง  ทริปนี้อยู่ 9 วัน JR Pass ได้ 7 วัน  วันแรกอยู่ Tokyo ซื้อ One-day Pass 600 Yen มาใช้ก่อน

ทริปนี้พักที่  Toyoko Inn Asakusa Kurame  ใครลง Haneda เลือกพักที่ Toyoko Inn Shinagawa จะสะดวกสุดต่อเดียวจาก  Haneda  ขึ้น Keikyu Line แค่ 21 นาทีก็ Shinagawa  ออกจากสถานีเดินนิดเดียวถึงที่พักแล้ว ... ทางไปขึ้น Keikyu Line ก็เดินไปด้านขวาในรูปซื้อตั๋วลงลิฟท์ไปด้านล่างเปิดประตูมาก็ชานชลารถไฟแล้ว
  
นั่ง Keikyu Line 24 นาทีมาลง Sengakuji (ถัดจาก  Shinagawa  มาอีกสถานีหนึ่ง) ต่อสาย Asakusa อีก 18 นาทีถึง Kurame จ่ายไป 480 Yen







เช่า Wifi  Modem พร้อม SIM แบบ Unlimted จากเมืองไทยมา ....  ลงปุ๊บเปิดปั๊บจับ 4G เลย  นอก Tokyo หรือเมืองใหญ่จะมีแต่ 3G

Toyoko Inn มี 3 แห่งในแถบ Asakusa  ช่วงเช้าและเย็นจะมีรถรับส่งไป สถานี Ueno แหล่ง Shopping โดยเฉพาะ เจ้าตึกม่วง Takeya แหล่งเครื่องสำอาง และแหล่งร้านอาหารยอดนิยมของคนไทย

นั่ง Shuttle Bus จากโรงแรม  10 นาทีก็ถึง Ueno Station ... มากับเจ้านายก็สบายแบบนี้เรื่องกิน เรื่องตังค์เก็บไหนหาไม่เจอ ไม่มี ... เพราะเจ้านายเก็บหมด ... 555  





เจ้านายพาไปกิน Ramen ร้านดังที่ Ueno ให้ออก  Yamashita Exit หน้าตาตามรูปแหละ

ใกล้ทางออกมีป้ายโฆษณาของร้านชื่อไรไม่รู้อ่านมะออก ... 

โอ๊ยนี่มัน 4 ทุ่มแล้วยังต้องเข้าคิวอีก  น่าจะดังจริง

ถึงคิวแล้ว .... หิวๆๆๆๆๆ

555 บริหารต้นทุนสุดยอดตาม Style Japan ... อยากกินไรก็กดปุ่มหยอดตังค์  ไม่ต้องมี Cashier

โต๊ะ... ม่ายช่าย ... คอกใครคอกมัน  รีบกินรีบไป ... 555

เดี๋ยวพนักงานเขาเอามาเสิร์ฟให้จากช่องกระจกนั่นแหละ

เจ้านายบอกเขาให้เลือกประมาณอยากได้เผ็ดมากเผ็ดน้อย อ่านมะออกเจ้านายจัดการให้ 555

มาแล้ว Ramen มื้อแรกที่ Japan .... อร่อยจริงๆ สมราคาคุย  อิ่มแล้วก็ออกมานั่ง Shuttle Bus คันเก่ากลับที่พักเอาแรงลุย Tokyo พรุ่งนี้




Sumida River


ตื่นเช้าได้ทานอาหารเช้าจากโรงแรมรวมอยู่ในค่าที่พัก ...  อากาศสบายๆ เดินไม่กี่นาที่ก็ถึง  Sumida River  เสียดายที่ Sakura ใน Tokyo โรยไปก่อนเรามาอาทิตย์นึงแล้ว  Sumida River เป็นหนึ่งในสถานที่ต้นๆ สำหรับชม Cherry Blossomใน Tokyo

วันนี้พยากรณ์บอกว่าอากาศจะอึมครึมตลอด หาแดดไม่เจอในตอนเช้า 

พยากรณ์ที่นี่แม่นอยู่แล้ว  หาแดดไม่เจอเลย



เห็นตึกอุนจิแต่ใกล ...  จริงๆมันเป็นสัญลักษณ์ฟองเบียร์บนตึกของบริษัทยักษ์ใหญ่  Asahi Breweries ... เจ้าเสาใกล้ๆ ก็คือ  Tokyo Sky Tree





Sakura ไม่เหลือ  แต่มีดอกไม้สีสรรสวยงามให้ชมแก้ขัด



















Sensoji Temple


จากสะพานตรงเจ้าตึกอุนจิ  ก็เลี้ยวซ้ายเดินมา 1-2 นาทีก็ถึงวัด Sensoji หรือ  Asakusa Kannon  ... วัดนี้ประมาณว่ามากรุงเทพก็ต้องมาไหว้วัดพระแก้ว

ประตูแรก Kaminari-mon หรือ Thunder Gate มีเทพเจัาสององค์เฝ้าอยู่ ด้านซ้าย Raijin - God of Thunder  ด้านขวา Fujin - God of Wind









เรามาเช้าไปปะ  ร้านค้าบนถนนคนเดิน Nakamise Dori ยังไม่ค่อยเปิดเลย

















ดูโคมรุ่นจิ๋วหน้าร้านซาลาเปาทอดที่คนไทยกล่าวถึงบ่อยๆ

จากประตูแรก  มาประตูที่สอง Hozomon Gate หรือประตูมหาสมบัติ เป็นประตูสองชั้นและมีโคมยักษ์สามใบ



ด้านซ้ายมีเจดีย์ห้าชั้น  Gojo-no-to ... เห็นเจดีย์ญี่ปุ่นมีห้าชั้นประจำ

















เครื่องหมายนี้หมายถึงวัดนะไม่ใช่นาซีเยอรมัน  ถ้าเป็นศาลเจ้าก็เป็นรูปเสา Toroi  สีแดงเขียนบนแผนที่ของญี่ปุ่น  

ทุกวัดประตูจะมี God of Thunder และ God of Wind ยืนเฝ้าวัด



ผ่านประตูมาด้านซ้ายเป็นเจดีย์ห้าชั้น



ตรงกลางมีกระถางธูปใบใหญ่ O-Koro





ที่จุดธูปแก๊ส



ตามธรรมเนียมญี่ปุ่น  ต้องกวักควันธูปเพื่อนำโชคลาภเข้าสู่ตัวเอง



เสร็จแล้วก็ต่องบ้วนปากล้างมือก่อนเข้าวัด

ศาลาใหญ่  Hondo  มีโคมแดงใบยักษ์อีกใบ







ได้เวลาเข้าวัดไปไหว้พระแล้ว









ตู้ไรหว่า

100 Yen ทำบุญสำหรับใบเซียมซี



ไม่รู้นะ  .... ถ้าดีเอากลับบ้าน  ไม่ดีผูกไว้อะเปล่า




เพดานด้านบนเป็นรูปวาด



มาไหว้พระขอพรจากเจ้าแม่กวนอิม  Kan-non  ให้ลูกหมูกับลูกกระต่ายโชคดีนะครับ ... ตามตำนานสองพี่น้องชาวประมงทอดแหที่แม่น้ำ Sumida แล้วมีพระพุทธรูปเจ้าแม่กวนอิมองค์เล็กติดมา แม้จะทิ้งลงน้ำสักกี่ครั้งก็ตาม  ทั้งสองเกิดศรัธาจึงสร้างวัด Asakusa Kannon ขึ้น 







ออกจากวัดก็เดินมาทางซ้ายดูเจดีย์ห้าชั้นกับสวนด้านข้าง







Tulip



















สวนด้านข้าง มีทั้งพระพุทธรูปและศาลบูชา









คุณยาย  Uryu Iwako ผู้ใจบุญ บริจาคทานช่วยเหลือคนยากไร้ เด็กกำพร้า สร้างโรงพยาบาล ปรับปรุงความเป็นอยู่ของคนจนใน Tokyo




Asakusa Shrine


ด้านขวาของวัด  จะเป็นศาลเจ้า  Asakusa Shrine







ตามธรรมเนียม











แวะไหว้ Asakusa Shrine เสร็จก็เดินออกประตูด้านข้างเลย เดินไปก็จะเจอ Sumida Park  ซึ่งอยู่ริม  Sumida River ดูได้จากแผนที่ ที่เป็นแนวสีชมภูสองฝั่งของแม่น้ำ   Park นี้จะเป็นแหล่งของ Sakura ริมแม่น้ำ  หวังเล็กๆ ว่าจะมีเหลือให้ชมบ้าง

ระหว่างทางยังไม่ถึงแม่น้ำ ..... ว้าว ...นั่นมันเป็น  The First Cherry Blossom  ของ In the Pink Trip 

  
 นับเป็น ซากุระแรกพบแม้ว่ามันจะมีไม่กี่ต้นก็ตาม ... :)



ซากุระที่นี่ต้นออกสีชมพูม่วง

 
เดินต่อไปถึง Sumida Park ก็ต้องผิดหวัง ซากุระโรยไปหมดแล้วอะ

เดินเรียบแม่น้ำย้อนกลับไปตรงสะพานใกล้ตึกอุนจิสีทองที่อยู่ข้างหน้า   สถานีรถไฟ Asakua อยู่ตรงปลายสะพาน   จับรถไฟสาย Asakusa ไป  Ueno ต่อไปลุ้นดู  Cheery in the Pink  ยังเหลือที่สวน Ueno อะเปล่า





Ueno


ถึงสวน Ueno Sakura เหลือไม่กี่ต้นโรยไปหมดแล้วเหมือนกัน  ทำใจมาแล้ว  แต่ก็ยังผิดหวังเล็กๆ  ... :(



มีสาวญี่ปุ่นในชุดกิโมโนมาถ่ายรูป .... ทำไมพึ่งมาอะน้อง





Cheery Blossom ที่นี่เป็นสีขาว













แถวนี้มีเสา โทโรอิ  ด้วยเหรอ











เดินตามไปที่แท้เป็นร้านอาหาร  เข้าใจดึงความสนใจ

เดินชมสวนไปเรื่อยๆ ... 




















ถัดไปเป็นวัดเล็ก Kiyomizu Kannon-Do สร้างในปี 1631 รูปแบบคล้ายวัด Kiyomizu-Dera ที่ Kyoto ที่คนไทยเรียกกันว่าวัดน้ำใส





มี Terrace แบบวัดน้ำใส

ชมวิวด้านล่าง






เดินยังไม่ถึงหนึ่งในสามของสวน Ueno  แต่ว่ายังมีอีกหลายสถานที่ต้องไปเวลาจะไม่พอเลยเดินวกออกมาลาท่าน Saigo Takamori The Last Samurai




Shibuya


จาก  Ueno ก็นั่ง สาย  Ginza Line มา  Shibuya  ต้องออกทาง Hachi-ko Exit

รถคันนี้ให้บริการ Tourist Information






Hachi-ko ยอดสุนัขจอมกตัญญู  รอเจ้านายกลับจากทำงานทุกวัน  จนเจ้านายลาโลกไปแล้วแต่ก็ยังมาเฝ้ารอทุกวัน





สี่แยกวุ่นวาย แห่ง  Shibuya ... มุมดีๆ ก็ต้องที่  Starbucks  อยู่ที่ชั้นสองของตึก Tsutaya







ต้องข้ามถนนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความวุ่นวาย

มานั่งกินกาแฟที่  Starbucks  ดูวิวเต็มๆ ของสี่แยกวุ่นว่าย

1..2..  เฮ้ยยังไม่เขียวเลย ... มีพวกแตกแถวก่อนอะ 

ลุย .... ลุย ... 

วุ่นวายเต็มถนนแล้ว .... 
ยังไม่หมดความพยายามตามหา  Cherry Blossom in the Pink ระหว่างกินกาแฟ  Starbucks ... Search ดู Japan-guide.com  บอกว่า Cherry Blossom ที่สวน Shinjuku Gyoen จะบานช้ากว่าที่อื่น  ... ชวนเจ้านายไปลุ้นดีกว่า